
มาทำความรู้จักลุงป้อมกันเถอะ ลุงป้อมถูกพูดถึงมากขึ้นหลังจากก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ทำหน้าที่แทน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยว่าดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65
พล.อ.ประวิตรหรือลุงป้อมของเรา เป็นคนกรุงเทพมหานครตั้งแต่เกิด เกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2488 เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ศึกษาต่อยังโรงเรียนเตรียมทหาร ในรุ่นที่ 6 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 แล้วจึงมาจบการศึกษาหลักสูตรประจำ ชุดที่ 56 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อปี 2521 ตามลำดับ
เคยมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.จากลุงโทนี่
พล.อ.ประวิตร ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์เมื่อปีพ.ศ.2523 ต่อด้วยผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ในปี 2539 และได้รับการขยับตำแหน่งสูงขึ้นตามความสามารถและประสบการณ์ จนได้มาเป็นผู้บัญชาการทหารบกเมื่อปี 2547 ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ
เริ่มเข้าสู่การเมืองและมีส่วนร่วมในศูนย์ปราบคนเสื้อแดง

เข้าสู่วงการการเมืองอย่างเปิดเผยของลุงป้อม เริ่มขึ้นเมื่อปี 2551 ภายหลังยุบพรรคพลังประชาชน ทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีการตั้งรัฐบาลใหม่ จนได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ และได้ลุงป้อมขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
มาในยุคกลุ่มแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ กดดันให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่รัฐบาลในขณะนั้นกลับเลือกใช้วิธีตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ศอฉ.แทน
ศูนย์ศอฉ. นี้มีผู้อำนวยการคือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เป็นแกนนำในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556-2557 และมี พล.อ.ประวิตร เป็นรองผู้อำนวยการนั่นเอง

เมื่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ถูกกองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 พล.อ.ประวิตร ก็ได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้ดำรงตำแหน่งนายยกรัฐมนตรี ส่วนตัวลุงป้อมก็ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถึง2ตำแหน่ง
ในการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งนั้น พล.อ.ประวิตร ไม่สนใจในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวมากนักซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวเองเป็นอย่างมาก
ถึงจะมีหลายประเด็นให้หลายฝ่ายแคลงใจเกี่ยวกับความโปร่งใส เช่น ประเด็นนาฬิกายืมเพื่อน แต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 ลุงป้อมกลับได้รับความไว้ใจจากบรรดา ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐก็มองว่า พล.อ.ประวิตร อาจช่วยผลักดันนโยบายของพรรคไปสู่การปฏิบัติจริงได้มากขึ้นซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งสมัยหน้า
ในการเลือกตั้งสมัยหน้า พล.อ.ประวิตร ก็ยิ่งมีภาพลักษณ์เป็นนักการเมืองมืออาชีพมากขึ้น เพราะการลงพื้นที่ไปหาเสียงตามจังหวัดต่างๆ ถึงกับมีการตั้งเป้าว่าจะล้มพรรคเพื่อไทยในพื้นที่นี้ให้ได้อีกด้วยสล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เล่นพนันออนไลน์ทำกำไรได้จริง พนันไม่มีขั้นต่ำ